
เบี้ยประกันสุขภาพตนเอง ใช้เป็นลดหย่อนภาษีได้ ตามที่จ่ายจริง สำหรับคนที่ทำประกันสุขภาพให้ตัวเองที่จ่ายตั้งแต่ 1 ม.ค. 2560 เป็นต้นไป แต่ต้องไม่เกิน ฿15,000 และเมื่อรวมกับ เบี้ยประกันชีวิตทั่วไป และ เงินฝากแบบมีประกันชีวิต แล้วจะต้องไม่เกิน ฿100,000 ด้วย*1
เบี้ยประกันชีวิตสุขภาพตนเอง เป็นสิทธิประโยชน์สำหรับ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งมีหลักเกณฑ์การลดหย่อนแตกต่างจากเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปแต่มีความเกี่ยวพันกันเนื่องจากต้องใช้เพดานสิทธิ์ลดหย่อน ฿100,000 ร่วมกัน
สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ
เบี้ยประกันสุขภาพตนเอง ที่จ่ายไปตั้งแต่ 1 ม.ค. 2560 สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง ได้สูงสุดปีละไม่เกิน ฿15,000 และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปและเงินฝากแบบมีประกันชีวิต จะต้องไม่เกิน ฿100,000 ด้วย
เงื่อนไขการรับสิทธิ
เราจะสามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพตนเองมาหักลดหย่อนได้ ถ้าเป็นการคุ้มครองการประกันสุขภาพที่รับประกันโดยบริษัทประกันชีวิตหรือบริษัทประกันวินาศภัยที่ประกอบกิจการในไทยที่คุ้มครองอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่*2
- การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลอันเกิดจากการเจ็บป่วยและการบาดเจ็บ การชดเชยการทุพพลภาพและการสูญเสียอวัยวะ เนื่องจากการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ
- การประกันภัยอุบัติเหตุเฉพาะที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลการทุพพลภาพ การสูญเสียอวัยวะ และการแตกหักของกระดูก
- การประกันภัยโรคร้ายแรง (Critical Illnesses)
- การประกันภัยการดูแลระยะยาว (Long Term Care)
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป คุณต้องแจ้งความประสงค์กับบริษัทประกันด้วยว่าต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี*3
สามารถดูรายชื่อประกันสุขภาพที่ลดหย่อนภาษีได้ที่ www.itax.in.th/market
หลักฐานที่ต้องใช้
- ใบเสร็จหรือหนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันสุขภาพจากบริษัทประกันที่ระบุข้อความต่อไปนี้
- ชื่อ นามสกุล และเลขประจำตัวประชาชนของผู้เอาประกันภัยซึ่งเป็นผู้มีเงินได้และจ่ายเบี้ยประกันจากเงินได้นั้น
- ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของบริษัทประกัน
- จำนวนเบี้ยประกันสำหรับการประกันสุขภาพ
- จำนวนเงินที่มีสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้
เรื่องที่มักเข้าใจผิดบ่อย
- บริษัทประกันบางแห่งแจ้งกับลูกค้าว่าการขอหนังสือรับรองการชำระเบี้ยสุขภาพต้องขออนุมัติจากสำนักงาน คปภ. ก่อน จึงจะได้สิทธิลดหย่อนภาษี ซึ่งเรื่องนี้สำนักงาน คปภ. ชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง สำหรับปีภาษี 2560 นี้ เพียงแต่มีใบเสร็จรับเงินหรือหนังสือรับรองจากบริษัทเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการยื่นภาษีก็เพียงพอแล้ว หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186*4
- สำหรับการใช้สิทธิลดหย่อนปีภาษี 2561 เป็นต้นไป แม้กฎหมายจะกำหนดให้ต้องแจ้งความประสงค์การใช้สิทธิลดหย่อนภาษีให้บริษัทประกันทราบเพื่อส่งข้อมูลเบี้ยประกันสุขภาพให้แก่กรมสรรพากรอีกที แต่กระบวนการมีเพียงแค่แจ้งความประสงค์ตามแบบฟอร์มที่ได้รับจากบริษัทประกันก็พอแล้ว ซึ่งจะช่วยให้เวลายื่นภาษีจริงไม่ต้องใช้หลักฐานประกอบการยื่นขอลดหย่อนภาษีอีก